ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ ที่เราเห็นในท้องตลาดมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 98% และลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 55% สามารถซ่อมแซมชิ้นงานหรือชิ้นส่วนที่ทนต่อแรงอัดสูงได้ดี นำไปใช้ในการซ่อมแซมอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเครื่องจักรโลหะหนัก และลวดเชื่อมทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกันดังนี้
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 98%
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 98% หมายถึง เป็นลวดเชื่อมเหล็กหล่อที่มีส่วนผสมของนิกเกิล 98% มีราคาค่อนข้างสูง สามารถใช้งานกับการเชื่อมแบบกระแสไฟต่ำได้ดี เมื่อทำการเชื่อมช่วยให้การหลอมละลายได้ดีขึ้นและแนวเชื่อมมีความแข็งไม่สูงมากนัก สามารถนำไปตกแต่งแนวเชื่อมในรูปแบบต่างๆได้เช่น การกลึง การใส การเจียระไน และการเจาะ เป็นต้น
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 55%
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ 55% หมายถึง ลวดเชื่อมเหล็กหล่อที่มีส่วนผสมของนิกเกิล 55% มีราคาค่อนข้างถูกกว่าเมื่อเชื่อมเหล็กหล่อ 98% ให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมได้ดีโดยไม่ต้องทำการอุ่นหรืออบชิ้นงานก่อนทำการเชื่อม เมื่อทำการเชื่อมแล้วลวดเชื่อมชนิดนี้มีคุณสมบัติให้ความแข็งแก่ผิวเชื่อมเป็นพิเศษ ทำให้ยากต่อการตกแต่งผิวชิ้นงาน เพราะมีความแข็งสูง
การเชื่อมชิ้นงาน ตั้งค่ากระแสไฟอย่างไรให้เหมาะสมกับลวดเชื่อมเหล็กหล่อ
การตั้งค่ากระแสไฟเพื่อใช้งานลวดเชื่อมเหล็กหล่อ ก่อนอื่นเราขอแนะนำขนาดลวดเชื่อมเหล็กหล่อที่เหมาะสมกับการใช้งานแบ่งออกได้เป็น 2 ขนาดดังนี้ ลวดเชื่อมเหล็กหล่อขนาด 2.6 มิลลิเมตร และลวดเชื่อมเหล็กหล่อขนาด 3.2 มิลลิเมตร เป็นต้น
- ลวดเชื่อมเหล็กหล่อขนาดแกนลวด 2.6 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการเชื่อมชิ้นงานเหล็กหล่อโดยมีการตั้งค่ากระแสไฟเชื่อมอยู่ระหว่าง 55 – 80 แอมป์ ซึ่งเป็นค่ากระแสไฟที่เราแนะนำและเหมาะสมมากที่สุด เพราะขนาดของแกนลวดเชื่อมมีขนาดเล็กเพียง 2.6 มิลลิเมตร
- ลวดเชื่อมเหล็กหล่อขนาดแกนลวด 3.6 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการเชื่อมชิ้นงานเหล็กหล่อ โดยมีการตั้งค่ากระแสไฟเชื่อมอยู่ระหว่าง 80-115 แอมป์ ซึ่งเป็นค่ากระแสไฟที่เราแนะนำและเหมาะสมมากที่สุดเพราะขนาดแกนลวดมีขนาด 3.6 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟที่แรงขึ้น
การใช้งานลวดเชื่อมเหล็กหล่อ ใช้งานอย่างไร
การใช้งานลวดเชื่อมเหล็กหล่อสามารถนำไปเชื่อม ชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กหล่อ เช่นเหล็กหล่อเหนียวและเหล็กหล่อสีเทา เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานควรนำลวดเชื่อมเหล็กหล่อไปอบลดความชื้นก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยมีการตั้งค่าในการอบอยู่ที่ 95 – 110 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ชั่วโมง ในการเชื่อมทุกครั้งควรเชื่อมเป็นแนวระยะสั้น เพื่อลดการสะสมความร้อนให้กับเหล็กหล่อ และช่วยลดการแตกร้าวและเปลี่ยนสภาพของโครงสร้างเหล็กหล่อได้ดี
การเชื่อมเหล็กหล่อด้วยลวดเชื่อมเหล็กหล่อ การตั้งค่ากระแสไฟจึงมีความสำคัญ เพราะความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเหล็กหล่อ หากใช้เทคนิคและกระแสไฟในการเชื่อมไม่ดีอาจทำให้เกิดโพรงระหว่างการเชื่อม ซึ่งมีผลกระทบต่อแนวเชื่อมของเหล็กหล่อ มีผลต่อประสิทธิภาพและความแข็งแรงของแนวเชื่อม อีกด้วย ดังนั้นการเชื่อมเหล็กหล่อควรตั้งค่ากระแสไฟให้อยู่ในค่าตามคำแนะนำ เพื่อประสิทธิภาพและคุณภาพของงานออกมาได้ดี
Tags: ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ